คุณเครียด คุณคิ้วขมวดเวลาถูกแสงแดด หรือเวลาที่คุณกำลังคร่ำเคร่ง การแสดงสีหน้าต่าง ๆ เหล่านี้นานวันเข้าจะทำให้เกิดรอยถาวรบนใบหน้า ทำให้คุณดูแก่ก่อนวัย เหนื่อยล้า และดูเครียด
แต่ไม่ต้องกังวล ขณะนี้มี Botox ซึ่งเป็นวิธีในการลดริ้วรอยที่ง่าย โดยไม่ต้องผ่าตัดและให้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ
ถาม : โบท็อกซ์ คืออะไร
ตอบ : โบท็อกซ์เป็นโปรตีนจากธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่ทำให้เกิดรอยย่น ทำให้รอยย่นเรียบขึ้น และใบหน้าดูอ่อนวัยขึ้น โดยไม่ต้องมีการผ่าตัดใด ๆ การรักษาใช้เวลาเพียง 10 นาที ด้วยการฉีดยาเพียง 2 -3 จุด เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยย่น และออกฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 4 เดือน ผลจากการใช้โบท็อกซ์เห็นได้ชัดเจนายในเวลา 2 – 3 วัน และลบริ้วรอยได้ในระยะเวลาหนึ่ง
โบท็อกซ์เป็น Botulinum Toxin เพียงชนิดเดียวในโลกที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหาร และยา ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ใช้ในทางด้าน Cosmetic เพื่อลบริ้วรอย และรอยย่นบนใบหน้า มีการทดสอบการใช้โบท็อกซ์เป็นเวลากว่า 12 ปี เพื่อยืนยันความปลอดัย และผลการรักษาในคนกว่าล้านคนทั่วโลกจากการรักษาทางการแพทย์ต่าง ๆ
ถาม : โบท็อกซ์ไม่ใช่……..
ตอบ : โบท็อกซ์ไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ แต่เป็นยาที่ผลิตจากโปรตีนที่สกัดจากแบคทีเรียมาทำให้บริสุทธิ์ ซึ่งเหมือนกับยาเพนนิซิลลินที่ได้จากเชื้อรา โบท็อกซ์จะไม่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของคุณ หรือเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่เหมือนการทำศัลยกรรม จะได้ทำให้คุณดูอ่อนวัยลงไป 20 ปี ไม่ทำให้คุณแสดงอารมณ์บนใบหน้าไม่ได้โบท็อกซ์จะทำให้ริ้วรอยบางลง และจะออกฤทธิ์เฉพาะในบริเวณที่ต้องการ ไม่มีการกระจายไปทั่วร่างกาย และจะสลายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป
ถาม : โบท็อกซ์ออกฤทธิ์อย่างไร
ตอบ : รอยย่นเกิดขึ้นจากการที่ใบหน้าต้องแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ซ้ำ ๆ กัน โบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อเล็ก ๆ บนใบหน้า ที่ทำให้เกิดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าอารมณ์ต่าง ๆ ทำให้ผิวหนังด้านบนของกล้ามเนื้อเหล่านั้นเรียบ และรอยย่นลดลง เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัว คุณก็จะไม่สามารถเกร็งกล้ามเนื้อนั้น เพื่อทำให้เกิดรอยย่นที่ไม่ต้องการได้อีกต่อไป
ดังนั้นริ้วรอยต่าง ๆ จะค่อย ๆ เรียบขึ้น และป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ ขึ้นอีก โบท็อกซ์ ออกฤทธิ์เฉพาะบริเวณที่ฉีดเท่านั้นไม่มีผลกับกล้ามเนื้ออื่นที่ใช้สำหรับการแสดงสีหน้า ไม่ทำให้คุณหน้าตายเหมือนไร้ความรู้สึก คุณจึงยังแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ถาม : กรรมวิธีการรักษาเป็นอย่างไร
ตอบ : แพทย์จะตรวจ และพิจารณาบริเวณที่จะฉีดโบท็อกซ์ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด ไม่มีการใช้ยาชา แพทย์อาจใช้เพียงน้ำแข็งประคบบริเวณที่จะฉีด ขั้นตอนการรักษากินเวลาประมาณ 10 นาที โดยใช้โบท็อกซ์ปริมาณเพียงเล็กน้อยฉีดที่จุดต่าง ๆ ด้วยเข็มที่เล็กมาก ซึ่งผู้ที่ได้รับการฉีดโบท็อกซ์จะรู้สึกคล้าย ๆ มดกัดเท่านั้น โดยปกติหลังการฉีดโบท็อกซ์คุณสามารถกลับไปทำารกิจต่าง ๆ ได้ตามปกติโบท็อกซ์ จะเริ่มออกฤทธิ์ายใน 2 - 3 วัน และเห็นผลสูงสุดใน 7 วัน
โบท็อกซ์ออกฤทธิ์อยู่ได้นานประมาณ 4 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับแต่ละบุคคลคุณสามารถกลับมาฉีดได้เมื่อคุณต้องการ ซึ่งจะทำให้ริ้วรอยกลับมาช้าลง จากการศึกษาพบว่าการฉีดโบท็อกซ์ซ้ำจะทำให้การออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์อยู่นานขึ้น จึงสามารถเว้นระยะการฉีดให้นานขึ้น โดยคงผลการออกฤทธิ์เช่นเดิม จากการใช้โบท็อกซ์กับริ้วรอยต่าง ๆ ผลข้างเคียงจากการฉีดที่พบได้บ่อยที่สุดจะเป็นเพียงชั่วคราวในบริเวณที่ฉีด เช่น ปวด หรือช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งสามารถปกปิดด้วยการแต่งหน้า ปวดศีรษะ บางรายอาจเกิดอาหารหนังตาหนัก ประมาณ 1 -4 สัปดาห์ แต่พบได้น้อยมาก และไม่มีรายงานใดที่แสดงผลข้างเคียงถาวรจากการใช้โบท็อกซ์
ไม่แนะนำให้ใช้โบท็อกซ์ในสตรีมีครร์ หรือระหว่างให้นมบุตรรวมทั้งผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทกล้ามเนื้อ
ถาม : ประโยชน์ทางการรักษาของโบท็อกซ์
ตอบ : การรักษาด้วยโบท็อกซ์ เป็นที่ใช้แพร่หลายเพื่อ
- ลบรอยย่นระหว่างคิ้ว
- ลบรอบริ้วบนหน้าผาก
- รอยตีนกา หรือ ริ้วรอยจากการยิ้มรอบดวงตา
นอกจากนี้ยังใช้ในการยกคิ้วทำให้ดวงตาแลดูโตขึ้น และอ่อนเยาว์ลงมีรายงานจากแพทย์ว่าโบท็อกซ์ใช้ได้ผลดีกับรอยเส้นข้างจมูก ริ้วรอยรอบปาก และยังใช้ได้กับเส้นรอบคอ คางที่บุ๋ม หรือเป็นรอย
ถาม : โบท็อกซ์นิยมใช้ในกระบวนการเสริมความงามหรือไม่ ?
ตอบ : โบท็อกซ์ถูกใช้เป็นอันดับ 1 ในปีค.ศ. 2001 และจากรายงานของ The American Society for aesthetic Plastic Surgery ในสหรัฐอเมริกามีการใช้โบท็อกซ์ไปกว่า 1.6 ล้านครั้งในปีเดียวกัน ซึ่งเป็นทางเลือกที่เป็นที่นิยมที่สุด ในกระบวนการเสริมความงาม
ถาม : โบท็อกซ์ใช้กับผู้ชายได้หรือไม่ ?
ตอบ : โบท็อกซ์ใช้ได้ผลดีเท่า ๆ กันในผู้ชายและผู้หญิง มีการใช้โบท็อกซ์ในผู้ชายประมาณ 220,000 ครั้งในปี 2001 และเป็นที่นิยมในหมู่นักธุรกิจ เนื่องจากประสิทธิาพในการลบริ้วรอยจากความเครียดทำให้ใบหน้าดูแจ่มใส และอ่อนวัย
ถาม : โบท็อกซ์ราคาแพงหรือไม่ ?
ตอบ : เมื่อเปรียบเทียบกับทางเลือกต่าง ๆ ในการเสริมความงามบนใบหน้าการใช้ โบท็อกซ์เป็นทางเลือกที่มีราคาถูกและสมเหตุผล เมื่อเทียบกับวิธีอื่น เช่น การนวดหน้า ขัดหน้า การทำสีผม ครีมลบรอยย่น คนไข้บางรายพบว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยโบท็อกซ์เท่า ๆ กับที่ใช้ในการขัดหน้า 3 ครั้ง หรือ การไปทำสีผม 2 – 3 ครั้ง
ถาม : ริ้วรอยต่าง ๆ จะแย่ลงหรือไม่หากไม่ฉีดโบท็อกซ์อย่างต่อเนื่อง ?
ตอบ : ไม่เลย รอยย่นของคุณจะกลับมาเหมือนสาพก่อนการฉีด ซึ่งกินเวลาประมาณ 6 - 12 เดือน
ถาม : โบท็อกซ์ใช้ร่วมกับวิธีอื่นได้หรือไม่ ?
ตอบ : โบท็อกซ์มักถูกนำไปใช้ร่วมกับคอลลาเจน หรือเลเซอร์จากการศึกษา พบว่าการใช้คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์อย่างเดียวได้ผลน้อยกว่าการใช้ร่วมกับโบท็อกซ์
ถาม : ทำไมโบท็อกซ์เป็นหนึ่งเดียว ?
ตอบ: โบท็อกซ์เป็นชื่อการค้าของ Botulinum Toxin Type A ซึ่งไม่เหมือนกับผลิตัณฑ์อื่นที่มีส่วนผสมของ Botulinum Toxin โบท็อกซ์เป็นผลิตัณฑ์ตัวแรกในกลุ่มนี้ที่ได้รับการอนุญาตจากองค์การอาหาร และยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ตั้งแต่ปี 1989 และมีการศึกษาการใช้ทางคลินิกมายาวนานที่สุด
สำหรับการใช้ทางด้านความงามโบท็อกซ์ถูกนำมาทดสอบ และใช้อย่างกว้างขวางมานานกว่า 10 ปี และเป็น Botulinum Toxin เพียงตัวเดียวเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ทางด้านความงาม โบท็อกซ์มีส่วนผสมที่เป็นโปรตีนน้อยมาก ยิ่งมีโปรตีนมากจะทำให้เกิดการสร้างูมิคุ้มกันมาต่อต้านมากขึ้น ซึ่ง Botulinum Toxin อื่น มีโปรตีนสูงกว่าโบท็อกซ์ ถึง 2.5 - 10 เท่า
ถาม : จะพบแพทย์ที่ใช้โบท็อกซ์ได้อย่างไร ?
ตอบ: คุณควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น แพทย์ผิวหนัง แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง หรือ แพทย์ด้านความงาม ที่ผ่านการเรียนการใช้โบท็อกซ์มาอย่างดี คุณควรชักถามอย่างละเอียด และบอกความต้องการในการใช้ เพื่อให้แพทย์ได้อธิบาย และเลือกใช้ให้เกิดประสิทธิาพสูงสุด
ควรระวังในเรื่องของ “การเสนอราคาถูก” เพราะราคาถูกอาจทำให้คุณได้รับโบท็อกซ์ที่ไม่มีประสิทธิาพ โดยได้รับปริมาณน้อยเกินไป หรือได้รับการผสมที่เจือจางทำให้ผลที่ได้ไม่ยาวนานเท่าที่ควร แพทย์ที่ได้รับการฝึกอย่างดีจะทำให้คุณได้รับผลดีที่สุด
ถาม : จะทราบได้อย่างไรว่าโบท็อกซ์เหมาะกับคุณหรือไม่ ?
ตอบ : คุณควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ทางด้านความงาม และได้รับการฝึกฝนอย่างดี เพื่อให้คุณได้รับการรักษาที่ถูกต้องที่สุด